Moving Average เป็นหนึ่งในอินดิเคเตอร์ที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในการเทรด เทรดเดอร์ชอบมันมากเพราะใช้งานง่ายและได้ผลดี
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับอินดิเคเตอร์ และเรียนรู้ว่ามันทำกำไรให้กับเราได้อย่างไร
Moving Average เป็นอินดิเคเตอร์บ่งบอกเทรนด์ โดยมันจะแสดงค่าเฉลี่ยของราคาจากที่ขึ้นๆลงๆอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง
ประเภทของอินดิเคเตอร์
Moving Average มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ประเภทที่คุณสามารถใช้ได้ใน MetaTrader คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจสูตรซับซ้อนยากๆใด เพราะสิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือคุณต้องเข้าใจแนวคิดของ MA แต่ละประเภท
Simple Moving Average
Simple Moving Average เป็น MA ประเภทที่แสดงค่าเฉลี่ยของราคาปิดในช่วงเวลาที่สนใจ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราใช้ MA ของ 10 วัน ราคาปิดของทั้ง 10 วันนั้นจะถูกนำมารวมกันแล้วหารด้วย 10 และทุกครั้งที่มีการปิดราคาเกิดขึ้นครั้งใหม่ ราคาปิดที่เก่าที่สุดจะไม่ถูกนำมารวมอีก
Expnential MA และ Linear Weighted MA
Expnential MA และ Linear Weighted MA จะมีความคล้ายคลึงกัน ทั้งสองประเภทจะคำนวณราคาล่าสุดพร้อมค่าสัมประสิทธิ์ที่สูงกว่า MA คู่นี้จะสะท้อนให้เห็นการเคลื่อนที่ของราคาและจะให้สัญญาณได้เร็วกว่า แม้ MA คู่นี้จะให้สัญญาณได้ไว แต่บางทีสัญญาณที่ได้ก็เป็นสัญญาณหลอก
Smoothed MA
Smoothed MA มีรากฐานมาจาก Simple MA แค่เห็นชื่อก็พอเดาได้ว่ามันทำงานอย่างไร MA ตัวนี้จะทำให้ราคาที่เคลื่อนที่ขึ้นๆลงๆเกิดเป็นภาพเส้นทางที่ชัดเจนมากขึ้น ฉะนั้น MA ตัวนี้นี่เองที่เป็นตัวที่ดีที่สุดในการหาเทรนด์
วิธีการใช้งาน MetaTrader
MA ถูกติดตั้งไว้แล้วใน MetraTrader คุณไม่จำเป็นโหลดมาลงอีก เพียงไปที่เมนู “Insert” – มองหา “Indicators” แล้วเลือก “Trend” – แล้วคุณจะเห็น Moving Average อยูที่นั่น ควรตั้งค่าให้ถูกต้องก่อนนำมาใช้
Period
เป็นจำนวนของแท่งเทียนที่เราสนใจจะนำมาคำนวณ ยิ่งใช้ period มาก เส้น MA ก็จะยิ่งราบเรียบ และความแม่นยำของสัญญาณก็ยิ่งสูง กลับกันถ้าใช้ period น้อย MA ก็จะยิ่งอยู่ใกล้ราคา จริงๆแล้วไม่มีกฏตายตัวใดๆว่าต้องใช้ period เท่าไหร่ การวิเคราะห์กราฟด้วยกรอบเวลาใหญ่ๆ เทรดเดอร์มักจะใช้ period ที่ 50, 100 และ 200 ส่วนการเทรดบนกรอบเวลาที่เล็กลง; นักลงทุนมักจะใช้กรอบเวลาเล็กๆ เช่น 9, 12 และ 26
Price
เราสามารถกำหนดค่าได้ว่าจะให้เป็น Close, Open, High, Low, Median, Typical และ Weighed close prices แต่อย่างไรก็ตามเทรดเดอร์มักจะเลือก Close
Shift
การกำหนดค่านี้จะทำให้ MA ถูกดึงไปดึงมาในช่วงเวลา ส่งผลให้ MA นั้นวิ่งขึ้นๆลงๆ
วิธีใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในการซื้อขายฟอเร็กซ์
สิ่งหนึ่งที่เราอยากบอกคุณคือ MA นั้นให้สัญญาณช้า เนื่องจากมันต้องคำนวณราคาปิดล่าสุดก่อน หากต้องใช้มันในการเทรดก็ควรคิดให้ดี
MA เป็นอินดิเคเตอร์ที่บอกเทรนด์ ดังนันเราจะเริ่มต้นด้วยการหาเทรนด์ก่อน หากคุณต้องการหาว่าตลาดขณะนั้นเป็นตลาดหมี หรือ ตลาดกระทิง การตัดกันของเส้น MA จะช่วยบอกคุณได้
Golden Cross
เมื่อเส้น MA ของ period ที่เล็กกว่าตัดเส้น MA ของที่สูงกว่าจากล่างขึ้นบน เป็นสัญญาณในการเข้า BUY
เพิ่มเติมอีกนิดหน่อยว่า หาก MA วิ่งลง จะเป็น แนวโน้มขาลง และหาก MA วิ่งขึ้นจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น
Moving Average นั้นถูกใช้อย่างมากเป็นระดับแนวรับและแนวต้าน ระดับนั้นๆจะมีความแข็งแรงมากเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับ period ของ MA ยิ่ง period มากเท่าไหร่ แนวรับ/แนวต้านก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น และกรอบเวลาก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะยิ่งกรอบเวลาใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ MA ก็จะมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น หากลองเปรียบเทียบ MA 200 ชั่วโมง ถึง 200 วัน จะพบว่าช่วงเวลาที่นานที่สุดจะเป็นระดับที่แข็งแรงที่สุด ส่งผลให้ราคาไปวิ่งอยู่ใกล้ๆมัน
การใช้ MA เป็นแนวรับแนวต้าน เราจะได้โอกาสที่จะหาจุดเปิดตำแหน่งในการซื้อขาย เมื่อราคาทะลุขึ้นเหนือ MA อาจเป็นสัญญาณให้เปิด BUY ตรงข้ามถ้าราคาทะลุลงต่ำกว่า MA อาจเป็นสัญญาณให้เปิด SELL
MA และอินดิเคเตอร์ชนิดอื่นๆ
ข้อดีของ MA คือมันไม่พียงเป็นอินดิเคเตอร์ด้วยตัวเอง แต่มันยังเป็นส่วนหนึ่งของอินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆด้วย อินดิเคเตอร์ยอดนิยมอย่าง MACD
ก็ใช้ MA เป็นพื้นฐาน คุณยังสามารถเจอ MA ในเครื่องมืออื่นๆ เช่น Alligator, Bollinger, Ichimoku
เราเตือนเทรดเดอร์เสมอว่าไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่สมบูรณ์แบบ นั่นเป็นเหตุผลที่จำเป็นจะต้องผสมผสานมันเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้สัญญาณที่ชัดเจน
แล้วอินดิเคเตอร์อะไรล่ะที่ใช้ร่วมกับ MA ได้ดีที่สุด?
เป็นความคิดที่ดีที่จะใช้กราฟรูปแบบ แท่งเทียน มันจะให้สัญญาณการไปต่อและกลับตัวของเทรนด์ ส่วนอินดิเคเตอร์อื่นที่สามารถใช้ได้เช่นกันคือ Oscillators
Dead Cross
เมื่อเส้น MA ของ period ที่เล็กกว่าตัดเส้น MA ของที่สูงกว่าจากบนลงล่าง เป็นสัญญาณในการเข้า BUY
เคล็ดลับ: หากราคามีการวิ่งไปชน MA สองสามรอบ หมายความว่าอาจมีการกลับตัวเร็วๆนี้