ก่อนที่เราจะเริ่ม มาดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการคำนวณกัน
- สำหรับทั้งสองราคาในคู่สกุลเงินนั้น ราคาที่สูงกว่าจะเป็นราคา Ask เสมอ ในขณะที่ราคาที่ต่ำกว่าจะเป็นราคา Bid เสมอ
- คำสั่ง Buy จะเปิดที่ราคา Ask และปิดที่ราคา Bid
- ส่วนคำสั่ง Sell จะเปิดที่ราคา Bid และปิดที่ราคา Ask
- คำสั่ง Buy จะทำกำไรเมื่อราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ในขณะที่คำสั่ง Sell จะทำกำไรเมื่อราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด
- คำสั่ง Buy จะขาดทุนเมื่อราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด ในขณะที่คำสั่ง Sell จะขาดทุนเมื่อราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด
ขนาดของสัญญาปกติสำหรับคู่สกุลเงินโดยทั่วไปคือ 100,000 หน่วย และขนาดของจุดคือ 0.0001
การคำนวนกำไร
สมมติว่าคุณเปิดคำสั่งซื้อ EURUSD จำนวน 5 ล็อต ราคาในเวลาที่เปิดคำสั่งซื้อคือ 1.08155/1.08172
3 วันต่อมา คุณปิดคำสั่งนี้ที่ราคา 1.08188/1.08205
มาพิจารณาคำสั่งซื้อซึ่งเปิดที่ราคา Ask และปิดที่ราคา Bid คำสั่งนี้มีราคาเปิดคือ 1.08172 และราคาปิดคือ 1.08188
เนื่องจากราคาเพิ่มสูงขึ้น คุณจึงได้กำไร
ก่อนที่เราจะคำนวณกำไร เราจะต้องคำนวณมูลค่าปิ๊ปสำหรับคำสั่งซื้อขายก่อน ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่คุณจะได้กำไรหรือขาดทุนเมื่อราคาเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงแต่ละปิ๊ป
มูลค่าปิ๊ป = จำนวนล็อต x ขนาดของสัญญา x ขนาดปิ๊ป
= 5 x 100,000 x 0.0001
= 50 ดอลลาร์ (คำนวณในสกุลเงินรองเสมอ)
กำไร = (ส่วนต่างราคา / ขนาดปิ๊ป) x มูลค่าปิ๊ป
= ((1.08188 – 1.08172) / 0.0001) x 50
= 80 ดอลลาร์
ดังนั้นคุณจึงทำกำไรได้ 80 ดอลลาร์จากคำสั่งซื้อขายนี้
การคำนวณการขาดทุน
สมมติว่าคุณเปิดคำสั่งขาย GBPUSD จำนวน 3 ล็อต ราคา ณ เวลาขายเป็น 1.24177/1.24195
2 วันต่อมา คุณปิดคำสั่งนี้ที่ราคา 1.24207/1.24221
มาพิจารณาคำสั่งขายซึ่งเปิดที่ราคา Bid และปิดที่ราคา Ask คำสั่งนี้มีราคาเปิดคือ 1.24177 และราคาปิดคือ 1.24221
เนื่องจากราคาเพิ่มสูงขึ้น คุณจึงขาดทุน
ก่อนเราจะคำนวณการขาดทุน เราจะต้องคำนวณมูลค่าปิ๊ปสำหรับคำสั่งซื้อขายก่อน ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่คุณจะได้กำไรหรือขาดทุนเมื่อราคาเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงแต่ละปิ๊ป
มูลค่าปิ๊ป = จำนวนล็อต x ขนาดของสัญญา x ขนาดปิ๊ป
= 3 x 100,000 x 0.0001
= 30 ดอลลาร์ (คำนวณในสกุลเงินรองเสมอ)
ขาดทุน = (ส่วนต่างราคา / ขนาดปิ๊ป) x กำไรต่อจุด
= ((1.24221 – 1.24177) / 0.0001) x 30
= 132 ดอลลาร์
ดังนั้นคุณจึงขาดทุน 132 ดอลลาร์จากคำสั่งซื้อขายนี้
วิธีดึงไฟล์ HAR เพื่อใช้สำหรับการแก้ปัญหา
HAR หรือ HTTP ARchive เป็นรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลระหว่างเบราว์เซอร์เว็บและเว็บไซต์ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วจะใช้เพื่อระบุปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพและปัญหาการเรนเดอร์หน้าเว็บ หากไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ คุณอาจสร้างและวิเคราะห์ไฟล์ HAR เพื่อค้นหาสาเหตุ
เราได้รวบรวมคู่มือวิธีการใช้งานเบราว์เซอร์ที่ผู้คนนิยมใช้งานทั้งหมด เพื่อช่วยให้คุณค้นหาไฟล์ HAR ได้สะดวก คลิกที่เบราว์เซอร์ที่คุณใช้แล้วทำตามขั้นตอน
Google Chrome
Safari
Mozilla Firefox
Microsoft Edge
Google Chrome:
เปิด Google Chrome แล้วไปที่เว็บไซต์ Exness หรือพื้นที่ส่วนบุคคล
จากตัวเลือกเมนู ไปที่ View (มุมมอง) > Developer (นักพัฒนา) > Developer Tools (เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา)
เลือกแถบ Network (เครือข่าย)
ลองขั้นตอนที่พบปัญหาอีกครั้ง เพื่อบันทึกข้อผิดพลาด
คลิกขวาบริเวณที่แสดงการบันทึกของเครือข่าย แล้วเลือก Save all as HAR with content (บันทึกทั้งหมดเป็น HAR)
ส่งอีเมลพร้อมไฟล์ HAR ไปยังฝ่ายบริการลูกค้า
ข้อสำคัญ: ในระหว่างขั้นตอนนี้ เบราว์เซอร์ของคุณอาจเปิดหน้าใดหน้าหนึ่งในแถบใหม่ โดยไม่ได้เปิดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ในกรณีนี้ คุณควรเปิดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาในแถบใหม่เช่นกัน
Safari:
เปิด Safari แล้วไปที่เว็บไซต์ Exness หรือพื้นที่ส่วนบุคคล
หากคุณเพิ่มตัวเลือก Develop (พัฒนา) ลงในแถบเครื่องมือของคุณไว้แล้ว ให้ข้ามไปยังขั้นตอนที่ 4
ทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้เพื่อเพิ่มเมนู Develop (พัฒนา) ในแถบเครื่องมือของคุณ
3.1 เลือก Safari (จากแถบเครื่องมือ) > Preferences (การกำหนดค่า)
3.2 เลือก Advanced (ขั้นสูง)
3.3 เปิดใช้งาน ‘Show Develop menu in menu bar’ (แสดงเมนูพัฒนาในแถบเมนู)
คลิก Develop (พัฒนา) > Show JavaScript Console (แสดง JavaScript Console)
เลือกแถบ Network (เครือข่าย)
ลองขั้นตอนที่พบปัญหาอีกครั้ง เพื่อบันทึกข้อผิดพลาด
เลือกเอกสารจากรายการที่แสดงในแถบ Network (เครือข่าย)
คลิกไอคอน Export (ส่งออก) และบันทึกไฟล์
ส่งอีเมลพร้อมไฟล์ HAR ไปยังฝ่ายบริการลูกค้า
Mozilla Firefox:
เปิด Mozilla Firefox แล้วไปที่เว็บไซต์ Exness หรือพื้นที่ส่วนบุคคล
จากตัวเลือกเมนู ไปที่ Tools (เครื่องมือ) > Web Developer (นักพัฒนาเว็บ) > Toggle Tools (เปิด/ปิดเครื่องมือ)
เลือกแถบ Network (เครือข่าย)
ลองขั้นตอนที่พบปัญหาอีกครั้ง เพื่อบันทึกข้อผิดพลาด
คลิกขวาบริเวณที่แสดงการบันทึกของเครือข่าย แล้วเลือก Save all as HAR with content (บันทึกทั้งหมดเป็น HAR)
ส่งอีเมลพร้อมไฟล์ HAR ไปยังฝ่ายบริการลูกค้า
Microsoft Edge:
เปิด Microsoft Edge แล้วไปที่เว็บไซต์ Exness หรือพื้นที่ส่วนบุคคล
จากตัวเลือกเมนู ไปที่ Tools (เครื่องมือ) > Developer (นักพัฒนา) > Developer Tools (เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา)
เลือกแถบ Network (เครือข่าย)
ลองขั้นตอนที่พบปัญหาอีกครั้ง เพื่อบันทึกข้อผิดพลาด
คลิกขวาบริเวณที่แสดงการบันทึกของเครือข่าย แล้วเลือก Save all as HAR with content (บันทึกทั้งหมดเป็น HAR)
ส่งอีเมลพร้อมไฟล์ HAR ไปยังฝ่ายบริการลูกค้า
วิธีดึงข้อมูล Log file
Log file ประกอบด้วยข้อมูลที่เหมือนกับข้อมูลในแท็บบันทึก ภายในเทอร์มินัลการเทรดของคุณ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเริ่มใช้งานเทอร์มินัล การเปิดและปิดออเดอร์ ข้อผิดพลาด การติดตั้งอินดิเคเตอร์และระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) และการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ ฯลฯ ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์การดำเนินการคำสั่งซื้อขาย ดังนั้นเราอาจจะขอ Log file จากคุณ ในกรณีที่คุณติดต่อเราเกี่ยวกับคำสั่งซื้อขาย