อิควิตี้อินเด็กซ์หรือดัชนีหุ้นคือดัชนีที่เป็นตัวแทนของราคาโดยรวมของกลุ่มหุ้นที่สำคัญ
อิควิตี้อินเด็กซ์ใหญ่ (ดัชนีหุ้นของโลก) จะรวมถึงแต่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ดัชนีดังต่อไปนี้:
1. S&P 500
2. Dow Jones
3. Nasdaq
4. FTSE100
5. Nikkei225
6. DAX
7. CAC40
8. Euro Stoxx 50
9. ASX200
ดัชนีหุ้นคือตัวแทนของภาพรวมตลาดหุ้นตามกลุ่ม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหุ้นสำคัญที่ถูกนำมาคำนวณในดัชนีหุ้นจะเป็นหุ้นของบริษัทที่มีน้ำหนักมากที่สุด (มีมูลค่าสูง)
การเทรดอิควิตี้อินเด็กซ์กับ XM
อัตราค่า Swap จะคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนดัชนีค่าเงินระหว่างธนาคาร สำหรับโพซิชั่น Long นั้น จะมีการคิดจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคารบวกกับ mark-up ส่วนโพซิชั่น short นั้นจะได้รับตามอัตราดังกล่าวลบด้วย mark-up การดำเนินการนี้จะเกิดขึ้นที่เวลา 00:00 (โซนเวลา GMT+2 อาจมีการใช้เวลาออมแสง) ซึ่งอาจใช้เวลาหลายนาที จะมีการคิดค่า swap นี้เป็นเวลาสามวัน คือวันพุธถึงวันพฤหัสบดี
** ระดับขั้นต่ำสำหรับการส่งคำสั่งที่รอดำเนินการที่ราคาตลาดปัจจุบัน
มาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับ CFD มีการคำนวณดังนี้: Lots * ขนาดของสัญญา * ราคาเปิด * เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น โดยไม่คำนึงถึงเลเวอเรจบนบัญชีซื้อขายของท่าน
มาร์จิ้นจะเป็น 50% เสมอเมื่อท่านเฮดจ์โพซิชั่นบน CFDs และถ้าระดับมาร์จิ้นของท่านมากกว่า 100%
** ระดับขั้นต่ำสำหรับการส่งคำสั่งที่รอดำเนินการที่ราคาตลาดปัจจุบัน
มาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับ CFD มีการคำนวณดังนี้: Lots * ขนาดของสัญญา * ราคาเปิด * เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น โดยไม่คำนึงถึงเลเวอเรจบนบัญชีซื้อขายของท่าน
มาร์จิ้นจะเป็น 50% เสมอเมื่อท่านเฮดจ์โพซิชั่นบน CFDs และถ้าระดับมาร์จิ้นของท่านมากกว่า 100%
โปรดทราบว่า บริษัทของเราไม่มีการโรลโอเวอร์สัญญาใหม่ของตราสารทางการเงินที่มีวันหมดอายุแบบอัตโนมัติ
การปรับเงินปันผลสำหรับดัชนีเงินสด (ไม่รวม GER30)
CFDs ของดัชนีเงินสดจะได้รับการปรับค่าเงินปันผล
เมื่อหุ้นที่ประกอบกันเป็นดัชนีจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เงินปันผลนี้จะทำให้มูลค่าของบริษัทลดลงตามจำนวนเงินปันผลที่จ่ายออกมา
สิ่งนี้จะสะท้อนออกมาในวัน ex-dividend เนื่องจากจะเกิดการลดลงของราคาหุ้นรวมถึงการลดลงของค่าดัชนีตามน้ำหนักของหุ้นในดัชนี
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อโพซิชั่น การปรับเงินปันผลจะมีขึ้นบนบัญชีของลูกค้าที่ถือโพซิชั่นของดัชนีที่เวลา 00:00 (โซนเวลา GMT+2 โปรดทราบว่าอาจมีการปรับใช้เวลาออมแสง) ของวัน ex-dividend
การปรับค่าเงินปันผลจะเกิดขึ้นก่อนช่วงเปิดตลาดของวัน ex-dividend (เวลาทำการของตลาดเป็นไปตามด้านล่างนี้)
CFDs ของ Germany30 (GER30Cash) จะไม่ได้รับการปรับค่าเงินปันผลเนื่องจากเงินปันผลที่จ่ายออกมาจากหุ้นที่ประกอบกันเป็นดัชนีจะถูกนำไปลงทุนต่อในตัวดัชนี ดังนั้นดัชนีตัวนี้จึงไม่มีการปรับตัวลงเนื่องจากการจ่ายเงินปันผล
CFDs ของดัชนีฟิวเจอร์จะไม่มีการปรับค่าเงินปันผลเช่นกัน
โพซิชั่นซื้อจะได้รับเงินตามการคำนวณดังนี้:
การปรับเงินปันผล = ดัชนีดอกเบี้ยที่ได้ประกาศไว้ x ขนาดของโพซิชั่นเป็น Lots
โพซิชั่นขายจะต้องจ่ายเงินตามการคำนวณดังนี้:
การปรับเงินปันผล = ดัชนีดอกเบี้ยที่ได้ประกาศไว้ x ขนาดของโพซิชั่นเป็น Lots
ดัชนีการจ่ายเงินปันผล
สัญลักษณ์ (ตราสาร) ที่แสดงดังต่อไปนี้เป็นตราสารที่เราคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลภายในสัปดาห์นี้ ตัวเลขเงินปันผลเป็นเพียงการคาดหวังจากผู้ให้บริการสภาพคล่องของเราเท่านั้นและสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้
ในช่วงวันทำการราคาหุ้นของบริษัทต่าง ๆ จะมีการปรับตัวขึ้นหรือลง เนื่องจากดัชนีหุ้นมีการคำนวณจากกลุ่มของหุ้นที่สำคัญดังนั้นราคาจะมีการปรับตัวขึ้นหรือลงตามการเคลื่อนตัวโดยรวม (สูตรทางคณิตศาสตร์และสถิติ) ซึ่งมีราคาหุ้นแต่ละตัวเป็นตัวกำหนดราคาสุดท้าย
นี่คือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่ควรทำความเข้าใจก่อนทำการซื้อขายดัชนีหุ้น:
1. หุ้นทั้งหมดที่อยู่ในดัชนีหุ้นหนึ่ง ๆ (เช่น Dow Jones) จะต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกและอาจถูกสับเปลี่ยนเข้าออกได้โดยบริษัทอื่นถ้าหากผลการดำเนินงานโดยรวมด้อยลงและมีบริษัทอื่นที่ทำได้ดีกว่า หรือกล่าวโดยสั้น ๆ คือ บริษัทที่อยู่ในกลุ่มจะไม่ได้เป็นบริษัทเดิมตลอดเวลา
2. การกำหนดน้ำหนักของหุ้นที่มีผลต่อดัชนีหุ้นโดยรวมนั้นจะมาจากการคำนวณและกฎต่าง ๆ ดังนั้นจึงทำให้หุ้นทุกตัวในกลุ่มดัชนีไม่ได้มีน้ำหนักเท่านั้น หรือพูดง่าย ๆ คือ ราคาโดยรวมของดัชนีหุ้นจะไม่ได้เกิดจากการคำนวณง่าย ๆ ด้วยการนำราคาของหุ้นแต่ละตัวมาบวกกันแล้วหารด้วยจำนวนหุ้นเพียงเท่านั้น
3. ดัชนีหุ้นจะแสดงให้เห็นถึงความเห็นในภาพรวมและสามารถถูกนำมาใช้เป็นตัววัดประสิทธิภาพโดยรวมของตลาดหุ้นได้ด้วยมูลค่าในอดีต
4. ตามที่ได้กล่าวไปในข้อที่ 2 เนื่องจากหุ้นทุกตัวที่อยู่ในกลุ่มไม่ได้มีค่าน้ำหนักเท่ากันแต่จะมีการให้น้ำหนักที่มากกว่ากับบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดที่สูงกว่า นั่งจึงหมายความว่าถ้าหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ได้มีราคาลดลงไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ดัชนีโดยรวมจะลดลงตามไปด้วยถึงแม้ว่าหุ้นที่เหลืออาจจะไม่ได้มีราคาลดลงตาม
5. ตามที่ได้กล่าวไปในข้อที่ 1 หุ้นที่อยู่ในกลุ่มซึ่งจะถูกนำมาคำนวณดัชนีจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นดัชนีไม่ได้เป็นเหมือนตัวแทนของกลุ่มหุ้นที่มีแต่หุ้นตัวเดิม ๆ เสมอไป